- กฎกระทรวงฉบับที่ 2 (2535)
- กฎกระทรวงฉบับที่ 3 (2535)
- กฎกระทรวงฉบับที่ 11 (2539)
- กฎกระทรวง กำหนดมาตรฐานและ..
ข่าวสารด้านความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม
กฎหมายสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรมด้านมลพิษทางน้ำ
กฎหมายเกี่ยวกับกากอุตสาหกรรม
ผลการเปิดประตูระบายน้ำคลองสารภีตามแผนป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำเสีย
สืบ เนื่องจากในช่วงเดือนพฤศจิกายนของทุกปี เกิดปัญหาคุณภาพน้ำในคลองสารภีและแม่น้ำปราจีนบุรี ที่เกิดขึ้นจากการระบายน้ำออกเพื่อให้ชาวนาได้เก็บเกี่ยวข้าว กรมควบคุมมลพิษ ร่วมกับจังหวัดปราจีนบุรี หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และภาคประชาชน ได้จัดตั้งคณะทำงานขึ้นมา 2 ชุด คือ คณะทำงานตรวจสอบแหล่งกำเนิดมลพิษและหาสาเหตุที่ทำให้เกิดปลาตาย และคณะทำงานกำหนดมาตรการและแผนงานป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษในพื้นที่คลอง สารภี ในปี 2550
จากการศึกษาประตูระบาย น้ำคลองสารภีเป็นประตูระบายน้ำแบบบานโค้ง เมื่อเปิดประตูระบายน้ำจะต้องเปิดระบายจากท้องน้ำ จึงทำให้ตะกอนของเสียที่สะสมอยู่ท้องน้ำไหลลงสู่แม่น้ำเป็นจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อคุณภาพน้ำและสัตว์ ในปี 2550 ชลประทานจังหวัดปราจีนบุรีได้ปรับปรุงบานประตูระบายน้ำเป็นแบบชนิดบานตรง 2 ชั้น เพื่อควบคุมการระบายน้ำและป้องกันการฟุ้งกระจายของตะกอนลงสู่แม่น้ำ ทำให้การเปิดประตูระบายน้ำคลองสารภีในปี 2550 และ 2551 ที่ผ่านมาไม่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพน้ำในแม่น้ำปราจีนบุรีและสัตว์น้ำตาม ธรรมชาติรวมถึงการเลี้ยงปลาในกระชัง และคณะทำงานเฉพาะกิจได้ดำเนินการตรวจสอบคุณภาพน้ำ เพื่อศึกษาแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงคุณภาพน้ำในทุก 3 วัน และได้ดำเนินการติดตั้งสถานีตรวจวัดคุณภาพน้ำอัตโนมัติแบบชั่วคราวบริเวณ ท้ายประตูระบายน้ำคลองสารภี จำนวน 1 สถานี และติดตั้งสถานีตรวจวัดคุณภาพน้ำอัตโนมัติแบบถาวรบริเวณแม่น้ำปราจีนบุรี จำนวน 3 สถานี เพื่อตรวจวัดคุณภาพน้ำในทุกๆ 30 นาที ซึ่งสามารถเรียกดูข้อมูลได้จากเว็บไซด์กรมควบคุมมลพิษ www.pcd.go.th และได้ดำเนินการแจ้งข้อมูลคุณภาพน้ำให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อใช้ เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการบริหารการเปิด – ปิดประตูระบายน้ำ นอกจากนี้ ได้ขอความร่วมมือจากโรงงานในพื้นที่ใกล้เคียงให้งดการระบายน้ำทิ้งจนกว่าการ ระบายน้ำออกจากทุ่งสารภีจะแล้วเสร็จ ทั้งนี้ชลประทานจังหวัดปราจีนบุรี ได้จัดเตรียมและติดตั้งเครื่องเติมอากาศบริเวณท้ายประตูระบายน้ำ พร้อมทั้งเติมสารสกัดชีวภาพเหนือประตูระบายน้ำเพื่อช่วยในการบำบัดและฟื้นฟู คุณภาพน้ำ กรณีพบว่าค่าออกซิเจนละลายในน้ำบริเวณท้ายประตูระบายน้ำต่ำกว่า 2.0 มิลลิกรัมต่อลิตร
จากผลการ ดำเนินงานตั้งแต่ปี 2550 การเปิดประตูระบายน้ำคลองสารภีได้รับผลสำเร็จเป็นอย่างดี ทำให้ไม่พบปัญหาปลาในธรรมชาติและปลาในกระชังตายเหมือนปีที่ผ่านมา ในปีนี้ก็เช่นกันทุกหน่วยงาน มีการประสานงานและเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ เกษตรกรเองให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ รวมทั้งมีการทยอยขายปลาในกระชังไปบางส่วนด้วยเช่นกัน ซึ่งจากความร่วมมือของทุกภาคส่วนทำให้ไม่พบปลาธรรมชาติและปลาในกระชังรวม ทั้งสิ่งมีชีวิตในน้ำทั่วไปตาย ซึ่งกรมควบคุมมลพิษจะได้นำวิธีการดำเนินงาน ที่ประสบความสำเร็จเช่นนี้ไปใช้ในพื้นที่ต่อ ๆ ไปด้วย
ข่าวสารสิ่งแวดล้อม
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ฉบับที่ 5/2552
10 กุมภาพันธ์ 2552
ทส. เชิญประชาร่วมใจ รวมพลังหยุดเผา บรรเทาโลกร้อน
จากการคาดการณ์สถานการณ์หมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนในปี 2552 พบว่าอาจมีความรุนแรงมากกว่าปี 2551 เนื่องจากการเปลี่ยนผ่านของสภาพภูมิอากาศจากปรากฏการณ์ลา นิญญ่า เข้าสู่สภาวะปกติ ทำให้ช่วงต้นปี 2552 มีปริมาณฝนต่ำ สภาพอากาศแห้ง ประกอบกับการสะสมปริมาณเชื้อเพลิงในป่ายังอยู่ในปริมาณสูง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงได้มีการเตรียมความพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการรองรับสถานการณ์หมอก ควันและไฟป่า โดยได้มีการติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์คุณภาพอากาศในบรรยากาศ เตรียมความพร้อมในการระดมพลของหน่วยงานควบคุมไฟป่าตามแผนระดมพลดับไฟป่า จัดทำแนวกันไฟ เสริมสร้างการมีส่วนร่วมภาคประชาชนในการป้องกันและดับไฟป่า ฝึกอบรมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดตั้งศูนย์ประสานการจัดการหมอกควันและไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือประชาชนงดเผาขยะ กิ่งไม้ใบไม้ งดเผาเศษวัสดุการเกษตร งดเผาป่า และเพิ่มความเข้มงวดในการลาดตระเวน ติดตาม เฝ้าระวัง ป้องกันไฟที่อาจเกิดขึ้นทั้งในพื้นที่ป่าและในชุมชน
นอก จากนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยังเน้นการสร้างจิตสำนึกให้ประชาชนในการลดการเผาเพื่อคุณภาพอากาศที่ดีใน ชุมชน โดยได้ร่วมกับ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน กรมส่งเสริมการเกษตร กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และกองทัพภาคที่ 3 จัดกิจกรรม “90 วัน รวมพลังหยุดเผา บรรเทาโลกร้อน” เมื่อ วันที่ 30 มกราคม 2552 ณ ลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ จังหวัดเชียงใหม่ โดยมี นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานเปิดงาน กิจกรรมในงานประกอบด้วย พิธีถวายปฏิญญา “90 วัน รวมพลังหยุดเผา บรรเทาโลกร้อน” การลงนามในปฏิญญา การแนะนำสัญลักษณ์โครงการและเพลงรณรงค์ การมอบสื่อประชาสัมพันธ์ให้กับ 8 จังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน การจัดแสดงนิทรรศการ ขบวนคาราวานรณรงค์ และการแสดงบนเวที มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมประมาณ 4,000 คน โดยมีเป้าหมาย ในการควบคุมการเผาในช่วงวิกฤติ 90 วัน ระหว่างวันที่ 31 มกราคม – 30 เมษายน 2552 ไม่ให้ส่ง ผลกระทบต่อคุณภาพอากาศ โดยเฉพาะปริมาณฝุ่นขนาดเล็ก (PM10) ให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด
นอกจากกิจกรรมรณรงค์ดังกล่าวแล้ว กรมควบคุมมลพิษ ได้รับมอบระบบต้นแบบการพยากรณ์หมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน (Prototype Model on Haze Forecast in Northern Thailand) ซึ่งสามารถพยากรณ์สถานการณ์หมอกควันที่จะเกิดขึ้นล่วงหน้าได้ 24 ชั่วโมง จากบัณฑิตวิทยาลัยร่วมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เพื่อใช้ประกอบ การจัดการปัญหาหมอกควันและไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนต่อไป โดย กรมควบคุมมลพิษ จะนำผลการพยากรณ์เผยแพร่ออกสู่สาธารณะทางเวปไซต์ www.aqnis.pcd.go.th
ข่าวสารสิ่งแวดล้อม
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ฉบับที่ 6/2552
10 กุมภาพันธ์ 2552
ทส. ร่วมเปิดโครงการแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์และขยะเครื่องใช้ไฟฟ้า
เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือและพิธีเปิดโครงการแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์และขยะเครื่องใช้ไฟฟ้า WEEE(Waste of Electronic and Electrical Equipments) ณ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิร์ล กรุงเทพฯ โดยความร่วมมือของสหพันธ์สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ บริษัท หน่วยงาน ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน จัดกิจกรรมส่งเสริมการคัดแยกและจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเฉลิมพระเกียรติแก่สมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมายุครบ 77 พรรษา 12 สิงหาคม และให้ประชาชนได้ตระหนักถึงพิษภัยของสารอันตรายที่ใกล้ตัว และรู้จักวิธีการคัดแยกซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์อย่างทั่วถึงและครอบคลุมทุกภาคส่วน
รถไฟ ไปรษณีย์ บริการฟรีรับส่งอะลูมิเนียม
วันที่ 31 สิงหาคม นายภิมุข สิมะโรจน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานแถลงข่าวโครงการเรียกคืนอะลูมิเนียม เพื่อจัดทำขาเทียมพระราชทาน ปี 2552 เพื่อลดขยะมูลฝอยประเภทอะลูมิเนียม และนำไปใช้ประโยชน์ในการนำไปผลิตขาเทียม และอุปกรณ์สำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุ
กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับมูลนิธิขาเทียมในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี บริษัท ไทยเบเวอร์เรจแคน จำกัด บริษัท บางกอกแคนแมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด จัดโครงการเรียกคืนอะลูมิเนียม เพื่อจัดทำขาเทียมพระราชทาน ซึ่งผู้บริจาคในต่างจังหวัดสามารถนำอะลูมิเนียมไปร่วมบริจาคได้ 2 ทาง คือที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด เพื่อขนส่งทางรถไฟและร่วมบริจาคโดยใส่กล่องไม่เกิน 5 กก.ส่งได้ที่ทำการไปรษณีย์ไทยทั่วประเทศ โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย และบริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด ได้สนับสนุนการขนส่งจากผู้บริจาคถึงปลายทางกรมควบคุมมลพิษ ไม่คิดค่าธรรมเนียมไปถึงสิ้นปี 2553 ประชาชนสามารถร่วมบริจาควัสดุอะลูมิเนียมทางไปรษณีย์ โดยจ่าหน้ากล่องถึงกรมควบคุมมลพิษ เลขที่ 92 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. 10400 และในวันที่ 5-11 กันยายน 2552 จะมีการจัดกิจกรรมในจังหวัดขอนแก่น บริเวณสวนสาธารณะบึงแก่นนคร และถนนข้าวเหนียว และจะจัดที่จังหวัดระยอง จังหวัดภูเก็ต เป็นลำดับต่อไป ซึ่งแต่ละพื้นที่มีโรงเรียนเข้าร่วมเรียนรู้ ร่วมประกวดการเรียกคืนอะลูมิเนียม ชิงรางวัล คาดว่าจะสามารถเพิ่มปริมาณโรงเรียนในพื้นที่เป้าหมายเข้าร่วมโครงการไม่น้อยกว่า 100 โรงเรียนต่อพื้นที่ และรวบรวมอะลูมิเนียมได้ไม่น้อยกว่า 12 ตัน เพื่อสร้างจิตสำนึกให้กับกลุ่มเยาวชนในการมีส่วนร่วมจัดทำแผนการคัดแยกขยะอย่างถูกวิธี และสามารถนำกลับมาใช้ใหม่อย่างเป็นระบบ ลดปริมาณการตกค้างของขยะมูลฝอยโดยเฉพาะอะลูมิเนียม
ทั้งนี้นายภิมุข สิมะโรจน์ ได้มอบรางวัลพร้อมโล่แก่โรงเรียนในจังหวัดนครปฐม ที่ชนะการประกวดแผนงานโครงการเรียกคืนอะลูมิเนียมฯ ปี 2551 ได้แก่ โรงเรียนบ้านกระทุ่มล้ม โรงเรียนวัดหนองศาลา (ประชานุกูล) และโรงเรียนบัวปากท่าวิทยา รวมทั้งรับมอบอะลูมิเนียมจากชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทย ร่วมกับชุมชนสมเด็จย่า เพื่อส่งมอบอะลูมิเนียมให้กับมูลนิธิขาเทียมในสมเด็จพระศรีนคริทราบรมราชชนนีต่อไป
ข่าวสารสิ่งแวดล้อม
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ฉบับที่ 38/2552
วันที่ 31 สิงหาคม 2552
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ฉบับที่ 38/2552
วันที่ 31 สิงหาคม 2552
งานสัมมนา Waste Innovation and Solution 2009
เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2552 บริษัท สยาม แมททีเรียลส์ เอ็กเชนจ์ จำกัด ได้ส่งพนักงานเข้าร่วมงานสัมมนาวิชาการและแสดงนิทรรศการแห่งชาติประจำปี 2552 จัดโดย สภาอุตสาหกรรม ในหัวข้อ “นวัตกรรมและทางออกสำหรับการจัดการของเสียอุตสาหกรรม ( Waste Innovation and Solution 2009 )” ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค โดยมี นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เป็นผู้กล่าวรายงาน และ นายสรยุทธ เพ็ชรตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นประะานกล่าวเปิดงาน
กิจกรรรมภายในงานประกอบไปด้วยการจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับนวัตกรรมด้านการจัดการกากของเสียอุตสาหกรรมจากบริษัทผู้รับดำเนินการจัดการกากของเสียอุตสากรรม และบริษัทที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม กว่า 20 บูธ
นอกจากนี้ในช่วงเช้ายังจัดให้มีการเสวนาพิเศษในหัวข้อเรื่อง “อดีต ปัจจุบัน สู่อนาคต วิวัฒนาการการจัดการมลพิษอุตสาหกรรมของประเทศไทย”โดย นายโกศล ใจรังษี รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม , รศ.ดร.ธำรงรัตน์ มุ่งเจริญ ผู้แทนปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี , นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย , ศาสตราจารย์กิตคุณ ดร.ธงชัย พรรณสวัสดิ์ กรรมการสภาวิศวกร และ นางสาวชุติมา นุ่นมัน สื่อมวลชนจากหนังสือพิมพ์มติชน และการสัมมนาในหัวข้อ “ประมวลเทคโนโลยี 3Rs” โดย รศ.ดร.สมบัติ ทีฆทรัพย์ ประธานกิตติมศักดิ์ กลุ่มอุตสาหกรรมการจัดการของเสียและวัสดุเหลือใช้ , ประธานที่ปรึกษากลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานทดแทน , รองประธานคณะกรรมการบริหารสถาบันสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย , รองอธิการบดี และคณะบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย โดยมีผู้ให้ความสนใจเข้าร่วมฟังเป็นจำนวนกว่า 400 คน
ในช่วงบ่ายมีการแบ่งการสัมมนาออกเป็น 5 ห้องย่อย โดยห้องย่อยที่ 1 เป็นการสัมมนาในหัวข้อ “Carbon Footprint และบัญญชีรายการสิ่งแวดล้อม และการประเมินวัฏจักรชีวิตผลิตภัณฑ์ (Life Cycle Inventory / Life Cycle Asssesment (LCI/LCA) )” ห้องย่อยที่ 2 เป็นการสัมมนาในหัวข้อ “กากของเสียอุตสาหกรรม…จัดการให้ง่ายและถูกต้องตามกฎหมายทำได้อย่างไร” ห้องย่อยที่ 3 เป็นการสัมมนาในหัวข้อ “เทคโนโลยีการจัดการของเสีย” ห้องย่อยที่ 4 เป็นการสัมมนาในหัวข้อ “การจัดการกากอุตสาหกรรม” และห้องย่อยที่ 5 เป็นการสัมมนาในหัวข้อ “การแลกเปลี่ยนกากของเสียอุตสาหกรรม (Industrial Waste Exchange) และกรณีตัวอย่าง”
งานสัปดาห์ความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม ประจำปี 2552 ของบริษัท ไทย เอ็น โอเค จำกัด
เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2552 บริษัท สยาม แมททีเรียลส์ เอ็กเชนจ์ จำกัด ได้รับเกียรติจาก บริษัท ไทย เอ็น โอเค จำกัด ให้เข้าร่วมจัดกิจกรรมภายในงาน“สัปดาห์ความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม ประจำปี 2552” ในฐานะที่บริษัทฯ ได้ให้บริการเป็นผู้ควบคุมแบบนิติบุคคลให้กับบริษัท ไทย เอ็น โอเค จำกัด
โดยภายในงาน บริษัทฯได้จัดแสดงบอร์ดให้ความรู้ในเรื่องความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมในการทำงาน อีกทั้งได้จัดให้มีเกมส์ปาลูกดอกขึ้น เพื่อแจกของรางวัลแก่พนักงานที่ให้ความสนใจเข้าร่วมทำกิจกรรมกับบูธของบริษัทฯ
งานวันความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมของ บริษัท เจเทคโตะ ออโตโมทีฟ (ไทยแลนด์) จำกัด ประจำปี 2552
เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2552 บริษัท สยาม แมททีเรียลส์ เอ็กเชนจ์ จำกัด ได้รับเกียรติจากบริษัท เจเทคโตะ ออโตโมทีฟ (ไทยแลนด์) จำกัด ให้เข้าร่วมจัดบูธ เกี่ยวกับการประกอบกิจการของบริษัทฯ และ บอร์ดความรู้เรื่อง “เครื่องหมายความปลอดภัย (Safety Sign)” ในงาน “วันความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมของ บริษัท เจเทคโตะ ออโตโมทีฟ (ไทยแลนด์) จำกัด ประจำปี 2552” เนื่องด้วยบริษัทฯ เป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อมและ้ให้บริการกำจัดกากของเสียอุตสาหกรรมแบบครบวงจร
ภายในงาน ทางบริษัทฯได้จัดทำแผ่บพับเรื่องเพื่อให้ความรู้กับพนักงานโดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับความปลอดภัยในการทำงาน และจัดให้มีการตอบแบบสอบถามเพื่อสำรวจความเข้าใจของพนักงานในหัวข้อดังกล่าว อีกทั้งยังมีการเล่นเกมส์จับคู่ภาพเครื่องหมายความปลอดภัย (Safety Sign) กับแผ่นป้ายความหมายเพื่อแจกของรางวัลแก่พนักงาน ซึ่งพนักงานบริษัท เจเทคโตะ ออโตโมทีฟ (ไทยแลนด์) จำกัด ได้ให้ึความสนใจเข้าร่วมกินกรรมเป็นจำนวนมาก