เอ เอฟพี-ขณะนี้จีน กำลังเร่งทำงานแข่งกับเวลาสุดชีวิตเพื่อบรรลุคำสัญญาลดการบริโภคพลังงานภาย ในปีนี้ โดยในเดือนที่ผ่านมา ได้สั่งปิดกลุ่มโรงงานที่ปล่อยมลพิษสูง
สืบ เนื่องจาก รัฐบาลจีนประกาศคำมั่นว่าจะตัดลดการบริโภคพลังงานต่อหน่วยจีดีพี ร้อยละ 20 ระหว่างปี 2549-2553 โดยขณะนี้จีนซึ่งเป็นหนึ่งในชาติที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากที่สุดในโลก กำลังระดมวิธีการต่างๆเพื่อลดมลพิษ และทำความสะอาดสิ่งแวดล้อม ที่วอดวายจากการพัฒนาเศรษฐกิจลูกเดียวในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา
จาก ข้อมูลของหน่วยงานรัฐจีน ส่อเค้าว่าจีน ซึ่งได้ลั่นวาจาหยุดยั้งการแพร่กระจายความร้อน และพัฒนาพลังงานทางเลือก จะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายฯได้ทันเส้นตายที่กำหนดไว้ปลายปีนี้ ซึ่งจะทำให้ชาติที่รักหน้าตาอย่างจีนต้องเสียหน้าอย่างมาก
ใน เดือนนี้ จีนได้สั่งการให้บริษัท 2,087 ราย ที่ผลิตเหล็ก ถ่านหิน ซีเมนต์ อลูมินัม กระจก และวัตถุดิบอื่นๆ ปิดโรงงานที่เก่าและล้าสมัยภายในเดือนกันยายนนี้ หรือมิฉะนั้น ก็อาจถูกแช่แข็งเงินกู้ และตัดไฟฟ้า
เมื่อ เร็วๆนี้มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้สั่งตัดไฟโรงงาน กว่า 500 แห่ง ในมณฑลอันฮุย เป็นเวลา 1 เดือน โทษฐานล้มเหลวในการลดการแพร่กระจายความร้อนตามเป้าหมาย
อย่าง ไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้สั่งปิดโรงงานที่ล้มเหลวฯเหล่านี้ เพียงไม่กี่สิบแห่ง นอกนั้นถูกสั่งงระงับการผลิตบางส่วนเท่านั้น
ก่อน การประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลกที่กรุงโคเฮนเฮเกนใน ปีที่แล้ว จีนประกาศลดความเข้มของก๊าซคาร์บอน (carbon intensity) ซึ่งเป็นมาตรวัดการแพร่กระจายความร้อนต่อหน่วยกิจกรรมเศรษฐกิจ ลดลงร้อยละ 40-45 เทียบกับระดับเมื่อปี 2548 ให้ได้ภายในปี 2563
จีน ได้จัดสรรงบประมาณ 738,000 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับโครงการพัฒนาพลังงานสะอาดในช่วง 10 ปี ข้างหน้า นอกจากนี้ จะยังหาวิธีการเพื่อบรรลุเป้าหมายการใช้พลังงานร้อยละ 15 จากแหล่งพลังงานทดแทน ได้แก่ พลังงานลม และพลังงานน้ำเป็นหลัก ภายในปี 2563
ทั้ง นี้ จีนจะเป็นเจ้าภาพจัดการเจรจาว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศรอบพิเศษในเดือน ตุลาคม ก่อนที่จะมีการประชุมสุดยอดว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของยูเอ็นที่ เม็กซิโกปลายปีนี้ โดยขณะนี้นานาชาติกำลังระดมความคิดเสนอระบบและข้อตกลงลดความร้อนโลก ขึ้นมาแทนที่พิธีสารเกียวโต ที่จะหมดอายุลงในสองปีนี้(2555) ทั้งนี้ พิธีสารเกียวโต เป็นอนุสัญญาระหว่างประเทศที่ระบุเป้าหมายการลดการแพร่กระจายร้อน ซึ่งมีพันธะผูกพัน
“หาก จีนล้มเหลวในการบรรลุ เป้าหมายในปีนี้ โดยมีส่วนต่างกว้างมาก จีนก็จะเสียความน่าเชื่อถือด้านการรักษาสัญญาแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพ อากาศ และจะสร้างความเคลือบแครงสงสัยแก่นานาชาติ” Damien Ma นักวิเคราะห์ แห่ง Eurasia Group ในนิวยอร์ก ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาและวิจัยความเสี่ยงทางการเมือง
ที่มา www.manager.co.th วันที่ 24 ส.ค. 2553